สวัสดีกันอีกครั้ง…ตามที่นัดกันไว้…ว่าจะพาไปชม…ปราสาทสัจธรรมกัน
นับ 1 2 3 พร้อมกันหรือยัง…(ถามใคร)…นั่นสิ…ถามใครหว่า…อะ ใครไม่พร้อมก็ไปกันเลยแล้วกัน
เนื่องด้วยว่า…ต้องไปประชุมต่างพื้นที่พื้นทาง…จะที่ไหนก็ที่ชลบุรีหนะสิ
อันว่าจังหวัดนี้ก็ไปมาหลายครั้ง…หลายครา..ถ้าให้ไปอีก…ก็หลงทางอีก…555
ยิ่งถ้าใครได้ไปตอนกลางค่ำกลางคืน…แถว ๆ เรื่อย ๆ ตั้งแต่พัทยาเหนือ…จรดพัทยาใต้ กันละแม่คุณเอ๊ย
หลงไปกันใหญ่เลย 555… อะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า…อย่างเราคงไปกลางค่ำกลางคืนคงไม่ได้
ด้วยอายุ…วัย…สังขาราอะไรก็แล้วแต่…มันไม่เอื้ออำนวยเลย…ดังนั้น…ไปตามสถานที่
ที่เค้าเที่ยวกันกลางวี่กลางวันจะดีกว่านะ…เคยนำเสนอไปหลายที่แล้วสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว
ในจังหวัดชลบุรี…ไม่ว่าจะเป็น…ท่าเรือจักรีนฤเบศร์…ไร่องุ่น Silver lake…หาดนางรำ…หาดนางรอง
อ่าวดงตาล…เขาชีจรรย์…อืมมม อะไรอีกนะ…คงหมดแล้วแหละ…ถ้่าใครยังไม่ได้อ่านหรือว่า
จำไม่ได้…ก็ไปดูเรื่องราวทั้งหมดก็แล้วกันนะจ้ะ…หรือว่าจะโทร.มาถามที่ 7777 ก็ได้..555 ว่าไปนั่น
สำหรับปราสาทสัจธรรมแห่งนี้…ตั้งอยู่ที่…บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ ….อ.บางละมุง
เนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ เป็นที่ตั้งของ… สถาปัตยกรรมไม้ที่มีขนาดใหญ่…ที่สุดของสยามประเทศ
สถาปัตยกรรม ไม้แห่งนี้ ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า ” วังโบราณ ” บ้างก็เรียกตาม วัสดุของตัวอาคาร
ที่สร้างด้วยไม้ว่า ” ปราสาทไม้ ” …แต่เจ้าของความคิด …และผู้ดำเนินการก่อสร้างคือ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์
เรียกอาคารแห่งนี้ว่า… “ปราสาทสัจธรรม”… ซึ่งเป็นศิลปสถาปัตยกรรม…ที่สร้างด้วยไม้
ที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ …ซึ่งเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้ …และความหมายในด้านนามธรรม
ได้สะท้อนและสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและ ปรัชญาซึ่งเป็นสิ่งค้ำจุนโลก
และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ปรัญชา ในการมุ่งสู่ความหลุดพ้นสู่โลกหน้าในอุดมคติ
ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของ มนุษย์ทุกรูปทุกนาม ปราสาทสัจธรรมแห่งนี้อุบัติขึ้นจากความสำนึก
ของคนตะวันออก ที่ว่าความเป็นมนุษย์ที่ผ่านมานับพันปีเป็นสิ่งที่จรรโลงโลกมาได้ด้วยสัจธรรมทางศาสนา
และปรัชญาโดยมีศิลปะเป็นสื่อ เนื้อหา … และความหมายไม่ใช่เป็นสิ่งที่คิดขึ้นใหม่….ด้วยความอหังการ์
หากได้นำเอาสิ่งที่ดีงาม…ที่มีอยู่ในศาสนา และปรัชญา และศิลปกรรม… มาปรุงแต่งให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
นั่นก็เป็นข้อมูล…ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้…
ขอบคุณที่มาของข้อมูลจาก..http://www.sanctuaryoftruth.com
สำหรับค่าเข้าชม…ก็สนนราคากันอยู่ที่…คนละ 500 บาทสำหรับชาวไทย
และคนละ 900 บาท…สำหรับชาวต่างประเทศ…(สำหรับราคาช่างต่างประเทศก็ไม่ค่อยแน่ใจ
ว่าจะใช่ราคานี้หรือเปล่านะจ้ะ)…แบบว่าจำไม่ค่อยได้จำ…จำได้แต่ของไทย ๆ 5555
อะ มาถึงตอนจบ …สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้…ชมภาพในบรรยากาศในหลายมุมกันไปแล้ว
ทั้งมุมนอก…มุมใน…มุมกว้าง…มุมแคบ…มุมหลบ…มุมหลืบ…โอ้ยย หลายมุมแท้
เอาเป็นว่าพอแต่เพียงแค่นี้ก่อนจะดีกว่า…พูดมาก…เริ่มงงกับตัวเองละ…เอาเป็นว่า
ขอบคุณสำหรับท่านผู้ติดตามนะค่ะ…ขอบคุณเจ้าของพื้นที่แห่งนี้ด้วย…(wordpress ที่น่ารัก)
สำหรับสถานที่ต่อไป…จะเป็นที่ไหนนั้น…ขออุ๊บไว้ก่อน…ไว้มาติดตามกันนะจ้ะ บ๊าย บ่ายยย